KNOWLEDEGE MANAGEMENT

ระบบการจัดการองค์ความรู้ – KM

    เนื่องจากในปัจจุบัน การทำงานในองค์กรต่างมีความซับซ้อน และมีความพิเศษใน
ขั้นตอนการปฏิบัติ  อีกทั้งบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญก็มีน้อย อีกทั้งเมื่อลาออกไปแล้ว
ความรู้บางอย่างที่สำคัญกับองค์กร กลับไม่ได้ถ่ายทอดให้คนใหม่ได้เรียนรู้ ดังนั้น
ระบบ knowledge management จะช่วยแก้ปัญหา ด้านความรู้ต่างๆ ให้อยู่ในหมวดหมู่
เดียวกัน

ความรู้แบ่งเป็น 2 ประเภท

      1.  Tacit Knowledge เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ พรสวรรค์ หรือสัญชาติญาณของแต่ละบุคคลในการทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆ เป็นความรู้ที่ไม่สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูด หรือลายลักษณ์อักษรได้โดยง่าย เช่น ทักษะในการทำงาน งานฝีมือ หรือการคิดเชิงวิเคราะห์ บางคนเรียกว่าเป็น ความรู้แบบนามธรรม

      2.  Explicit Knowledge เป็นความรู้ที่สามารถรวบรวม ถ่ายทอดได้โดยผ่านวิธีการต่างๆ เช่น ลายลักษณ์อักษร ทฤษฎี คู่มือต่างๆ
   
ขั้นตอนการจัดการความรู้ นั้น สามารถสรุปได้ คือ 

      1) การสำรวจความรู้ภายในองค์กร

      2) การวางแผนความรู้เพื่อการรวบรวมและจัดเก็บ

      3) การพัฒนาความรู้

      4) การถ่ายทอดความรู้ (Knowledge Transfer) หรือการแบ่งปันความรู้ (Knowledge Sharing)

คุณสมบัติเบื้องต้นของโปรแกรมเบื้องต้น

• สามารถสร้าง แก้ไข องค์ความรู้ในองคกรณ์ได้ 
• สามารถสร้าง หมวดหมู่  องค์ความรู้  ภายในองค์กร 
• สามารถแบ่งการใช้งาน การกำหนดสิทธ์ให้แต่ละคน แต่ละกลุ่ม หรือ แต่ละฝ่าย แผนก ภายในองค์กรได้
• สามารถแทรกข้อมูล ประเภทต่างๆ รูปภาพ ไฟล์เสียง ไฟล์หนัง และไฟล์ประเภทอื่นๆ
• กำหนดคีย์เวิดย์ในการค้นหา  สร้างเงื่อนไขในการแสดง 
• Online ด้วยระบบ Webbase + Database 

ประโยชน์ของการบริหารจัดการความรู้ 

• ช่วยลดระยะเวลาการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือการเรียนรู้งานใหม่ 
• บุคลากรได้รับความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน  มีการทำงานอย่างมีระบบขั้นตอนอย่างถูกต้อง
• มีกำไรมากขึ้น / ลดต้นทุน 
• ลดการสูญเสียเวลา ในการเรียนรู้ใหม่ การอบรมต่างๆ
• การพัฒนาคุณภาพของความรู้ไปสู่นวัตกรรมใหม่

SOFTWAREONLINE คืออะไร ?

ระบบซอฟท์แวร์ออนไลน์ คือ อะไร

        ระบบซอฟท์แวร์ หรือ เว็บไซต์ ที่รวบรวม การทำงานของระบบต่างๆมาไว้ด้วยกันเป็นระบบเดียวกันเพื่อการใช้งานที่คุ้มค่า และ ข้อมูลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเช่น ระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ ระบบบริหารลูกสัมพันธ์ ระบบการจัดการความรู้ในองค์กร ระบบบัญชี ซึ่งหากใช้งานระบบดังกล่าวให้เต็มรูปแบบ ในปัจจุบันซอฟต์แวร์มีราคาที่สูงมาก หลักแสน ถึงหลักล้าน หากนำมาประยุกต์ใช้งานฟังช์ชันเดียวกันจะทำให้ราคาถูกลงมามาก อีกทั้งประหยัด ในด้าน งบประมาณ ซอฟท์แวร์ และ ฮาร์ดแวร์ กำลังคนในการจัดการ อีกทั้งเราเก็บค่าบริการเป็นรายเดือนลูกค้าสามารถยกเลิกการใช้งาน หากไม่พอใจในตัวโปรแกรมได้

ซึ่งประกอบด้วย

 1 ระบบการจัดการส่วนกลาง :  ระบบที่จัดการส่วนการจัดการ ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น  ผู้ใช้งาน ช่องบริษัท สาขา  การตั้งค่าเบื้องต้นต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบทั้งหมด 

2. ระบบสินค้าและบริการ : เป็นส่วนการตั้งค่าเกี่ยวกับสินค้าและบริการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป้นรหัสสินค้า ราคา จำนวน

3.ระบบ CRM :  เป็นระบบบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์  การบันทึกประวัติลุกค้า  การบันทึการนัดหมาย ใบเสนอราคา  แคมเปญต่างๆ ข่าวสารสินค้า และ ข่าวสารบริษัท ซึ่งจะทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานในด้าน ลูกค้าเพิ่มขึ้น

4.ระบบ HRIS : ระบบบริหารทรัพยากรมนุษย์ ช่วยการทำงานด้านบุคคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ

ESS-Emplyee Self Service ระบบการจัดการข้อมูลเองของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น การลาผ่านระบบ การอนุมัติต่างๆ การขอโอที การขออบรม การร้องขอต่างๆ ผ่านระบบการแจ้งเตือนด้วย Email

• Employee-การจัดการข้อมูลพนักงาน 
• Recruit -การจัดหาพนักงาน
• Pay Roll-การจัดการระบบเงินเดือน 
• Training - การฝึกอบรม 
• Time Attendance -ขาดลามาสาย
• Evaluate -การประเมินผล 

BSC & KPI Webbase & WindowBase Balance Score Card และ Key Performance Indicator การออกแบบและพํฒนา ระบบการประเมินผลตามหลัก Balance Scorecard F-Finance C-Customer L-Lerning& Growth I-Internal Process ช่วยให้ผู้บริหารสามารถวิเคราะห์แนวโน้ม และปัญหาต่างๆในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในรูป กราฟ dashboard